วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

สัญลักษณ์ ® © และ ™

สัญลักษณ์ ® © และ 



(TM) = Trade Mark คือเครื่องหมายการค้า ได้แก่ คำ หรือรูปภาพ ที่แสดงความเป็นตัวตน เป็น subset ของลิขสิทธิ์ชนิดหนึ่ง

(R) = Registered คือ Trademark ที่ได้จดทะเบียนไว้กับ U.S.Patent แล้ว (จดหรือไม่จดก็ได้แต่จดแล้วจะดีกว่าเพราะมีหลักฐานในชั้นศาล)  


(C) = copyright Copyright คือลิขสิทธิ์ ใช้กับงานสร้างสรรทุกประเภท ได้รับความคุ้มครองทันทีที่สร้างขึ้นโดยไม่ต้องจดทะเบียน
  


กฎหมายเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าแบบต่างๆ เช่น (TM) (C) (R)


     คนทำงานศิลปะหรืออกแบบไม่ว่าสาขาไหน จำเป็นต้องรู้กฎหมายไว้บ้าง เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ในงานศิลปะที่ตนเองพึงได้รับ วันนี้เรามารู้จักกับ เครื่องหมายต่างๆที่น่าสนใจ

     เครื่องหมาย (TM) (C) (R) นั้นต่างกันอย่างไร 
TM และ (R) ใช้กับชื่อเฉพาะ เช่น Intel , Microsoft word หรือ Microsoft Excel 

     สำหรับ (C) ลิขสิทธิ์หมายถึงความคุ้มครองในงานประเภทวรรณกรรม และ software 
     Microsoft Excel ที่เป็น software จะได้รับความคุ้มครองจากลิขสิทธิ์ ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรก็ตาม ก็ยังได้รับความคุ้มครองทางลิขสิทธิ์ เนื่องจากตัว software ยังคงเหมือนเดิม 
     ส่วนคำว่า Microsoft เป็น Registered Trademark หมายความว่า คุณไม่สามารถสร้างสินค้าชื่อ Microsoft ได้ เพราะสามารถเกิดการฟ้องร้องกันได้ (เนื่องจากมีการจดทะเบียนไว้แล้วทุกประเทศทั่วโลก) คำว่า Excel เป็น Trademark เฉยๆ เราจะสร้างสินค้าใหม่ชื่อ Excel ก็ไม่ผิด แต่ถ้าไปสร้าง spreadsheet ชื่อ Excel ก็มีเหตุพอให้ microsoft ฟ้องว่าตั้งใจทำให้ผู้บริโภค เข้าใจผิด 
     คำว่า Patent คือสิทธิบัตร ซึ่งความคุ้มครองจะแตกต่างกับลิขสิทธิ์ 
     ลิขสิทธิ์ (C) นั้น ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนใดๆ เราจะเขียนงานอะไรขึ้นมาหนึ่งอย่าง จะเขียนโปรแกรม หรือถ่ายรูป งานนั้น จะได้รับ copyright โดยอัตโนมัติ
     สำหรับงาน copyright นั้นจะได้รับความคุ้มครองเฉพาะตัวของมันเอง เช่น โปรแกรม Excel ถ้าเราไป copy โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ผิดกฎหมาย ถ้าเราเขียนเอง มี function เหมือนกัน จะไม่ผิด (แต่ถ้าเราไปใช้ชื่อ Excel ก็จะไปละเมิดเรื่อง Trademark แทน) แล้วการจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่า ใครเป็นเจ้าของ copyright ถ้ามีคดีความเกิดขึ้น ก็จะเป็นเรื่องในชั้นศาล
     คำว่า Patent หรือ สิทธิบัตรนั้น ต้องมีการจด จึงจะได้รับความคุ้มครอง ใช้กับสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์ หรือ แม้กระทั่ง software การจดสิทธิบัตรจะต้องให้รายละเอียด การได้มาซึ่งสิ่งประดิษฐ์นั้นๆ ซึ่งเมื่อจด และได้รับการรับรองแล้ว (ไม่มีใครแย้งว่า เคยทำมาก่อน หรือ เป็น "ความรู้ทั่วไป") จะได้รับการคุ้มครอง แม้จะคิดออกมาได้เองเหมือนกัน แต่ก็จะต้องยอมให้คนจดได้ก่อน คนจดทีหลังจะไม่สามารถขายสิ่งประดิษฐ์ ของตัวเองได้เลย นอกจากจะได้รับความยินยอม จากเจ้าของสิทธิบัตร
     อายุของสิทธิบัตรของสิ่งประดิษฐ์แต่ละประเภทจะแตกต่างกันออกไป เช่น สิทธิบัตรของยาหลายประเภท มีอายุเพียง 3 ปี เมื่อสิทธิบัตรนั้นหมดอายุใครๆ ก็ผลิตได้ ไปเปิดรายละเอียดที่จดไว้ ในสิทธิบัตรแล้ว ผลิตเองได้เลย เหมือนกับ LCD ที่เพิ่งจะทะยอยหมดอายุไปทั่วโลกเมื่อไม่นานมานี้ 
     อีกคำหนึ่งที่เป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเหมือนกันก็คือ Trade Secret ส่วนเนื้อหาตามกฏหมายเป็นดังนี้ (TM) คือ เครื่องหมายการค้า (ซึ่งจะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนก็ได้) "เครื่องหมายการค้า" หมายความว่า เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแตก ต่างกับสินค้า ที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น